แปลง HEIF เป็น TIFF ออนไลน์ ฟรี

ต้องการ แปลง HEIF เป็น TIFF อย่างรวดเร็วและฟรีหรือไม่ เครื่องมือนี้คือ ตัวแปลง HEIF เป็น TIFF ออนไลน์ที่ใช้งานง่าย ช่วยรักษาคุณภาพภาพให้คมชัด เหมาะสำหรับงานพิมพ์และการแก้ไขภาพขั้นสูง อัปโหลดไฟล์ได้ทันที ปลอดภัย และไม่มีลายน้ำ รองรับหลายไฟล์เพื่อประหยัดเวลา ใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์อย่าง สะดวกทันใจ และได้ผลลัพธ์ที่ คุณภาพสูง ทุกครั้ง

กำลังโหลดตัวแปลง…

เครื่องมือแปลง HEIF อื่นๆ

อยากแปลงไฟล์ HEIF เป็นรูปแบบอื่นอีกไหม? นอกจาก ตัวแปลง HEIF เป็น TIFF ของเราแล้ว คุณยังสามารถเลือกเครื่องมืออื่นเพื่อแปลงเป็น JPG, PNG, WEBP และฟอร์แมตยอดนิยมได้อย่างรวดเร็ว คุณภาพดี ใช้งานง่ายในไม่กี่คลิก

HEIF ➜ GIF

แปลงไฟล์ HEIF เป็น GIF ง่ายและเร็วในไม่กี่วินาที

แปลง HEIF เป็น GIF
HEIF ➜ HEIC

แปลงไฟล์ HEIF เป็น HEIC ได้ง่ายและรวดเร็ว คุณภาพคมชัดไม่ลดลง

แปลง HEIF เป็น HEIC
HEIF ➜ JPEG

แปลงไฟภาพ HEIF เป็น JPEG รวดเร็ว ใช้งานง่าย คุณภาพคมชัดในไม่กี่วินาที

แปลง HEIF เป็น JPEG
HEIF ➜ JPG

แปลงไฟล์ HEIF เป็น JPG รวดเร็ว ใช้งานง่าย คุณภาพคมชัด

แปลง HEIF เป็น JPG
HEIF ➜ MP4

แปลงไฟล์ HEIF เป็น MP4 ง่าย รวดเร็ว และคุณภาพคมชัด

แปลง HEIF เป็น MP4
HEIF ➜ PDF

แปลงไฟล์ HEIF เป็น PDF ได้ง่ายและรวดเร็ว ในไม่กี่วินาที

แปลง HEIF เป็น PDF
HEIF ➜ PNG

แปลงไฟภาพ HEIF เป็น PNG อย่างรวดเร็ว ง่าย และคมชัดไม่เสียคุณภาพ

แปลง HEIF เป็น PNG
HEIF ➜ RAW

แปลงไฟล์ HEIF เป็น RAW ได้ง่ายและรวดเร็ว

แปลง HEIF เป็น RAW
HEIF ➜ TEXT

แปลงไฟล์ HEIF เป็น TEXT ได้ง่ายและรวดเร็ว ในไม่กี่วินาที

แปลง HEIF เป็น TEXT
HEIF ➜ WEBP

แปลงไฟล์ HEIF เป็น WEBP ง่ายและรวดเร็ว ในไม่กี่วินาที

แปลง HEIF เป็น WEBP

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแปลง HEIF เป็น TIFF

ในส่วนคำถามที่พบบ่อยนี้ คุณจะพบคำตอบง่ายๆ เกี่ยวกับการแปลงไฟล์ HEIF เป็น TIFF เช่น วิธีใช้งาน ความแตกต่างของไฟล์ เวลาในการแปลง และความปลอดภัย ช่วยให้คุณเริ่มต้นได้รวดเร็วและมั่นใจยิ่งขึ้น

ฉันควรตั้งค่าคุณภาพหรือความลึกสีอย่างไรเมื่อแปลง HEIF เป็น TIFF

หากต้องการคุณภาพสูงเมื่อแปลง HEIF เป็น TIFF ให้ตั้งค่า Compression เป็น LZW หรือ ZIP (ไม่สูญเสียข้อมูล) สำหรับภาพถ่ายทั่วไป และเลือก None เมื่อทำงานด้านรีทัชหรือเก็บงานต้นฉบับเพื่อหลีกเลี่ยงการบีบอัดทั้งหมด ตั้งค่า Resolution เป็น 300 PPI สำหรับงานพิมพ์ และ 72–150 PPI สำหรับการใช้งานหน้าจอ เปิดใช้ Embed Color Profile (เช่น sRGB/Display P3/Adobe RGB ตามต้นฉบับ) เพื่อคงความถูกต้องของสี

สำหรับ Bit Depth ให้เลือก 8-bit หากต้องการไฟล์เล็กและใช้งานทั่วไปบนเว็บ/เอกสาร เลือก 16-bit เมื่อทำงานเกรดสี รีทัชหนัก หรือพิมพ์คุณภาพสูงเพื่อลดแถบสีและคงไดนามิกเรนจ์สูง ถ้าไฟล์มีช่องโปร่งใส ให้เปิด Alpha channel และหากภาพเป็นขาวดำ เลือก Grayscale เพื่อลดขนาดไฟล์โดยไม่ลดคุณภาพ

ขนาดไฟล์จะเพิ่มขึ้นมากแค่ไหนเมื่อแปลงจาก HEIF เป็น TIFF

โดยทั่วไปแล้วขนาดไฟล์จะเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อแปลงจาก HEIF เป็น TIFF เนื่องจาก HEIF ใช้การบีบอัดที่มีประสิทธิภาพสูง ในขณะที่ TIFF มักเป็นแบบ ไม่บีบอัด หรือบีบอัดแบบสูญเสียข้อมูลน้อยมาก ไฟล์จึงอาจใหญ่ขึ้นประมาณ 5–20 เท่า ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของภาพ

ปัจจัยที่มีผลต่อขนาดไฟล์หลังแปลง ได้แก่ ความละเอียด ของภาพ, จำนวนบิตต่อพิกเซล (เช่น 8 บิต เทียบกับ 16 บิต), ช่องสี (RGB/CMYK), และการใช้ การบีบอัดใน TIFF (เช่น LZW, ZIP) หากเลือกไม่บีบอัด ขนาดจะพุ่งสูงที่สุด

ตัวอย่างโดยคร่าว: HEIF ขนาด 2 MB อาจกลายเป็น TIFF ระหว่าง 10–40 MB หรือมากกว่านั้น หากต้องการลดขนาด ให้เปิดใช้ LZW หรือ ZIP ใน TIFF และพิจารณาลดความลึกสีหรือความละเอียดเมื่อเหมาะสม

ความแตกต่างระหว่างไฟล์ HEIF กับ TIFF คืออะไร

HEIF (High Efficiency Image File) เป็นฟอร์แมตภาพสมัยใหม่ที่ใช้การบีบอัดแบบมีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ไฟล์มีขนาดเล็กลงโดยยังคงคุณภาพดี รองรับคุณสมบัติอย่างภาพหลายเฟรม (เช่น ไลฟ์โฟโต/เบิร์สต์), ความลึก, และเมตาดาต้าขั้นสูง เหมาะกับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพาและการแชร์ออนไลน์ที่ต้องการประหยัดพื้นที่จัดเก็บ

TIFF (Tagged Image File Format) เป็นฟอร์แมตภาพคุณภาพสูงที่นิยมในงานพิมพ์ การสแกน และงานมืออาชีพ รองรับทั้งแบบไม่บีบอัดและบีบอัดแบบไม่สูญเสียข้อมูล (เช่น LZW) ทำให้ได้รายละเอียดครบถ้วน สีแม่นยำ และความเข้ากันได้ดีกับซอฟต์แวร์ด้านกราฟิกและเวิร์กโฟลว์การพิมพ์

โดยสรุป HEIF เด่นเรื่องขนาดไฟล์เล็กและฟีเจอร์สมัยใหม่ เหมาะกับการเก็บและแชร์บนอุปกรณ์ทั่วไป ส่วน TIFF เด่นเรื่องความเที่ยงตรงของภาพและความน่าเชื่อถือในงานมืออาชีพ หากต้องการคุณภาพสูงสุดเพื่อการปรับแต่ง/พิมพ์ เลือก TIFF แต่ถ้าต้องการประหยัดพื้นที่และความยืดหยุ่นของมัลติมีเดีย ให้เลือก HEIF

TIFF รองรับเลเยอร์และโปรไฟล์สี ICC จาก HEIF หรือไม่

โดยทั่วไปไฟล์ TIFF สามารถรองรับ เลเยอร์ และการฝัง โปรไฟล์สี ICC ได้ แต่ความสามารถนี้ขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการแปลงและการบันทึกไฟล์ หากไฟล์ HEIF ต้นทางมีหลายเลเยอร์หรือมี ICC ฝังอยู่ จำเป็นต้องใช้ตัวแปลงที่รักษาข้อมูลเหล่านี้ระหว่างกระบวนการเอ็กซ์พอร์ต

สำหรับเลเยอร์ การแปลงจาก HEIF ไปเป็น TIFF มักถูกทำเป็นภาพแบนเดียวโดยค่าเริ่มต้น เว้นแต่ตัวแปลงจะรองรับการแม็ปเลเยอร์อย่างชัดเจน ดังนั้นหากต้องการเก็บเลเยอร์ ควรตรวจสอบตัวเลือกเช่น “Preserve layers” หรือ “Save as layered TIFF” ในซอฟต์แวร์ที่ใช้

สำหรับ โปรไฟล์สี ICC ไฟล์ TIFF รองรับการฝัง ICC ได้เป็นมาตรฐาน หากไฟล์ HEIF มีโปรไฟล์ (เช่น Display P3 หรือ sRGB) ให้ตั้งค่าการแปลงให้ “Embed ICC profile” หรือ “Preserve color profile” เพื่อคงความถูกต้องของสีในผลลัพธ์ TIFF

จะรักษาเมตาดาต้า EXIF และข้อมูลตำแหน่งจาก HEIF ไปยัง TIFF ได้หรือไม่

ได้ แต่ขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่ใช้และสิทธิ์ของไฟล์ต้นฉบับ เมื่อแปลงจาก HEIF เป็น TIFF คุณสามารถคง เมตาดาต้า EXIF และ ข้อมูลตำแหน่ง (GPS) ไว้ได้หากโปรแกรมรองรับการคัดลอกแท็กเมตาดาต้าทั้งหมด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ได้เลือกตัวเลือกที่ลบข้อมูลส่วนตัว และไฟล์ HEIF ต้นฉบับมีแท็กเหล่านั้นอยู่จริง

แนวทางที่แนะนำคือใช้ตัวเลือก “preserve metadata” หรือ “copy EXIF/GPS” ระหว่างการแปลง และทดสอบผลลัพธ์ด้วยเครื่องมือดูเมตาดาต้า (เช่น ExifTool) หากบางแท็กหาย ให้ลองแปลงแบบไม่บีบอัด หรือตั้งค่าให้คง ICC profile และแท็ก XMP เพิ่มเติมเพื่อความครบถ้วน

สามารถเก็บความโปร่งใสหรืออัลฟาชาแนลเมื่อแปลงเป็น TIFF ได้หรือไม่

ได้ครับ/ค่ะ โดยทั่วไปไฟล์ TIFF รองรับ ความโปร่งใส ผ่าน อัลฟาชาแนล ดังนั้นเมื่อคุณแปลงจากรูปแบบที่มีความโปร่งใส (เช่น HEIF/HEIC/PNG) เป็น TIFF คุณสามารถรักษาอัลฟาชาแนลไว้ได้หากตัวแปลงและการตั้งค่าถูกต้อง

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเลือก โหมดสี และ การบันทึกอัลฟา ที่รองรับระหว่างการแปลง เช่น RGBA หรือการตั้งค่า “Preserve Alpha/Transparency” หากมี ตัวเลือกบางอย่างอย่างเช่นการบีบอัด TIFF (LZW/ZIP) ก็ยังคงอัลฟาชาแนลได้

หากหลังแปลงแล้วความโปร่งใสหายไป ให้ตรวจสอบว่าแอปหรือโปรแกรมดูภาพของคุณรองรับ อัลฟาชาแนลใน TIFF และยืนยันว่าไม่ได้บันทึกเป็นโหมดที่ตัดอัลฟาทิ้ง (เช่น RGB ไม่มี A) ปรับตั้งค่าใหม่แล้วลองแปลงอีกครั้ง

รูปภาพ Live/ลำดับภาพจาก HEIF จะถูกแปลงเป็น TIFF อย่างไร

เมื่อแปลง Live Photo/ลำดับภาพ จากไฟล์ HEIF/HEIC เป็น TIFF ระบบจะดึงเฟรมภาพนิ่งหลัก (Key Frame) จากลำดับนั้นแล้วเข้ารหัสใหม่เป็น TIFF โดยคงไว้ซึ่งความละเอียด สีสัน และข้อมูลเมตาที่จำเป็น หากไฟล์ต้นฉบับมีหลายเฟรมหรือมีส่วนของวิดีโอ การแปลงเป็น TIFF มาตรฐานจะเลือกเฉพาะเฟรมภาพนิ่งเพียงเฟรมเดียว เว้นแต่ผู้ใช้จะเลือกตัวเลือกที่ระบุให้แยกหลายเฟรมออกมา

หากต้องการเก็บทุกเฟรมจาก ลำดับภาพ สามารถตั้งค่าให้แยกเป็น TIFF หลายไฟล์ (หนึ่งไฟล์ต่อหนึ่งเฟรม) หรือบันทึกเป็น TIFF แบบหลายหน้า ภายในไฟล์เดียวได้ ทั้งนี้ฟีเจอร์อย่าง เสียงและการเคลื่อนไหว ของ Live Photo จะไม่ถูกรวมใน TIFF เพราะเป็นฟอร์แมตภาพนิ่ง หากต้องการเก็บส่วนวิดีโอ แนะนำให้ส่งออกวิดีโอแยกต่างหากควบคู่กัน

เมื่อไรควรเลือก TIFF แบบบีบอัด LZW/ZIP แทนที่ไม่บีบอัด

เลือก TIFF แบบบีบอัด LZW/ZIP เมื่อคุณต้องการลดขนาดไฟล์โดยไม่สูญเสียคุณภาพ (lossless) เช่น งานสแกนเอกสาร ภาพกราฟิกที่มีพื้นที่สีแบนๆ หรือไอคอน/ไดอะแกรม ซึ่งมักบีบอัดได้ดีและช่วยประหยัดพื้นที่จัดเก็บกับเวลาอัปโหลด/ดาวน์โหลด โดยยังคงรายละเอียดเหมือนต้นฉบับ

หากเวิร์กโฟลว์ของคุณต้องส่งไฟล์ผ่านอีเมล แชร์ออนไลน์ หรือเก็บจำนวนมากบนคลาวด์ ให้ใช้ LZW (เร็วและเข้ากันได้กว้าง) หรือ ZIP (อัตราบีบอัดมักดีกว่าเล็กน้อย) เพื่อให้การถ่ายโอนลื่นไหลขึ้น ขณะเดียวกันยังเหมาะกับภาพที่มีข้อความ ลายเส้น และสีซ้ำๆ

หลีกเลี่ยงแบบไม่บีบอัดเมื่อไฟล์มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็น หรือเมื่อแอป/ระบบปลายทางรองรับ LZW/ZIP อยู่แล้ว แต่ถ้าคุณทำงานรีทัชภาพถ่ายความละเอียดสูงแบบเฟรมต่อเฟรมที่ต้องการประสิทธิภาพ I/O สูงสุด และมีพื้นที่เหลือเฟือ การใช้ TIFF ไม่บีบอัด อาจเหมาะกว่าเพื่อลดเวลาอ่าน/เขียนไฟล์