แปลงไฟล์ HEIF ของคุณเป็นรูปแบบใดก็ได้อย่างง่ายดาย
ที่ HEIF 2.0 (heif20.com) เราช่วยให้คุณ แปลงไฟล์ HEIF ของคุณเป็นรูปแบบใดก็ได้อย่างง่ายดาย ทั้ง JPG, PNG, WEBP, PDF และอื่นๆ ด้วยเครื่องมือออนไลน์ที่ใช้งานง่าย ปลอดภัย และรวดเร็ว เพียงอัปโหลดไฟล์แล้วเลือกฟอร์แมตที่ต้องการ ระบบจะประมวลผลอัตโนมัติด้วยคุณภาพสูงสุด พร้อมการบีบอัดอย่างชาญฉลาดเพื่อให้ไฟล์เล็กลงแต่ยังคงความคมชัด คุณยังสามารถปรับแต่งขนาด ความละเอียด และเมตาดาต้าตามต้องการได้แบบละเอียด พร้อมรองรับไฟล์จำนวนมากในครั้งเดียว เพื่อประหยัดเวลาและขั้นตอนยุ่งยาก เราให้ความสำคัญกับ ความเป็นส่วนตัว โดยเข้ารหัสระหว่างส่งและลบไฟล์ชั่วคราวหลังการแปลงเสร็จสิ้น รองรับทุกอุปกรณ์และเบราว์เซอร์ ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม เหมาะสำหรับทั้งผู้ใช้ทั่วไป ช่างภาพ นักออกแบบ หรือทีมงานองค์กรที่ต้องการเวิร์กโฟลว์ที่ลื่นไหลและ คุณภาพงานมืออาชีพ เลือก HEIF 2.0 เพื่อผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้ ใช้งานง่าย และพร้อมใช้งานทันทีทุกที่ทุกเวลา
เลือกประเภทการแปลง HEIF ที่คุณต้องการ
แปลงไฟล์ HEIF เป็น GIF ง่ายและเร็วในไม่กี่วินาที
แปลง HEIF เป็น GIF HEIF ➜ HEICแปลงไฟล์ HEIF เป็น HEIC ได้ง่ายและรวดเร็ว คุณภาพคมชัดไม่ลดลง
แปลง HEIF เป็น HEIC HEIF ➜ JPEGแปลงไฟภาพ HEIF เป็น JPEG รวดเร็ว ใช้งานง่าย คุณภาพคมชัดในไม่กี่วินาที
แปลง HEIF เป็น JPEG HEIF ➜ JPGแปลงไฟล์ HEIF เป็น JPG รวดเร็ว ใช้งานง่าย คุณภาพคมชัด
แปลง HEIF เป็น JPG HEIF ➜ MP4แปลงไฟล์ HEIF เป็น MP4 ง่าย รวดเร็ว และคุณภาพคมชัด
แปลง HEIF เป็น MP4 HEIF ➜ PDFแปลงไฟล์ HEIF เป็น PDF ได้ง่ายและรวดเร็ว ในไม่กี่วินาที
แปลง HEIF เป็น PDF HEIF ➜ PNGแปลงไฟภาพ HEIF เป็น PNG อย่างรวดเร็ว ง่าย และคมชัดไม่เสียคุณภาพ
แปลง HEIF เป็น PNG HEIF ➜ RAWแปลงไฟล์ HEIF เป็น RAW ได้ง่ายและรวดเร็ว
แปลง HEIF เป็น RAW HEIF ➜ TEXTแปลงไฟล์ HEIF เป็น TEXT ได้ง่ายและรวดเร็ว ในไม่กี่วินาที
แปลง HEIF เป็น TEXT HEIF ➜ TIFFแปลงไฟล์ HEIF เป็น TIFF รวดเร็ว ใช้ง่าย คุณภาพคมชัดไม่เสียรายละเอียด
แปลง HEIF เป็น TIFF HEIF ➜ WEBPแปลงไฟล์ HEIF เป็น WEBP ง่ายและรวดเร็ว ในไม่กี่วินาที
แปลง HEIF เป็น WEBPคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแปลงไฟล์ HEIF
คู่มือนี้รวบรวมคำตอบสั้นและชัดเจนเกี่ยวกับการแปลงไฟล์ HEIF เพื่อช่วยให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะสม แก้ไขปัญหาพบบ่อย และทำให้ไฟล์ใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์อย่างราบรื่น
ไฟล์ HEIF คืออะไร และใช้ทำอะไรบ้าง?
ไฟล์ HEIF (High Efficiency Image File Format) คือรูปแบบไฟล์ภาพสมัยใหม่ที่บีบอัดข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ทำให้ได้ภาพ คมชัด คุณภาพสูง แต่ขนาดไฟล์เล็ก กว่า JPEG เหมาะมากสำหรับการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนและกล้องดิจิทัล โดยเฉพาะอุปกรณ์ของ Apple (HEIC) และอุปกรณ์รุ่นใหม่หลายแบรนด์ HEIF รองรับ ภาพนิ่ง ภาพต่อเนื่อง (burst) ไลฟ์โฟโต วิดีโอสั้น ภาพโปร่งใส (alpha) รวมถึงข้อมูลเสริมอย่าง EXIF, โทนสี HDR, Wide Color จึงให้สีสวยและรายละเอียดดีขึ้น ใช้สำหรับ เก็บภาพคุณภาพสูงโดยไม่เปลืองพื้นที่ แชร์บนโซเชียลให้โหลดไว ทำงานด้าน ถ่ายภาพ ตัดต่อ ออกแบบเว็บ/โมบายล์ และคลังรูปจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม บางแพลตฟอร์มอาจยังรองรับไม่ครบ จึงนิยม แปลงเป็น JPEG/PNG เมื่อต้องการความเข้ากันได้กว้างขึ้น ส่วนงานพิมพ์หรือกราฟิกที่ต้องการความคงที่ของสี อาจแปลงเป็น TIFF/PNG ตามความเหมาะสม สรุปคือ HEIF เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการ ภาพสวย คมชัด ประหยัดพื้นที่ และฟีเจอร์ภาพล้ำสมัย พร้อมความยืดหยุ่นในการแปลงไฟล์เพื่อใช้งานในทุกแพลตฟอร์ม
ทำไม iPhone ถึงใช้รูปแบบ HEIF แทน JPG?
iPhone เลือกใช้รูปแบบ HEIF แทน JPG เพราะให้คุณภาพภาพสูงกว่าพร้อมขนาดไฟล์ที่เล็กลงอย่างชัดเจน ทำให้ประหยัดพื้นที่จัดเก็บและอัปโหลดได้เร็วขึ้น โดยยังคงรายละเอียด สี และช่วงไดนามิกได้ดี รูปแบบนี้รองรับฟีเจอร์สมัยใหม่ เช่น Live Photos ความลึกของภาพ ภาพโปร่งใส และเมตาดาต้าขั้นสูง อีกทั้งยังทำงานร่วมกับการบีบอัดวิดีโอ HEVC เพื่อประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีขึ้น บน iOS และ macOS ระบบจะแปลงเป็น JPG อัตโนมัติเมื่อแชร์ไปยังอุปกรณ์หรือแอปที่ไม่รองรับ จึงยังคงความเข้ากันได้ ในภาพรวม HEIF ช่วยให้ได้ภาพคมชัด ประหยัดพื้นที่ และรองรับฟีเจอร์ถ่ายภาพยุคใหม่มากกว่า JPG เหมาะกับการใช้งานบนมือถือที่ต้องการทั้งคุณภาพและความเร็ว
ความแตกต่างระหว่าง HEIF กับ HEIC คืออะไร?
HEIF และ HEIC เกี่ยวข้องกันแต่ไม่เหมือนกันทั้งหมด โดย HEIF (High Efficiency Image File Format) คือ “รูปแบบไฟล์” หรือภาชนะสำหรับเก็บภาพนิ่ง ภาพต่อเนื่อง ไลฟ์โฟโต้ เมตาดาต้า และเสียง ด้วยการบีบอัดที่มีประสิทธิภาพสูง ให้ไฟล์เล็กลงแต่คมชัดขึ้น ส่วน HEIC คือ “นามสกุลไฟล์” ที่นิยมใช้บนอุปกรณ์ Apple ซึ่งส่วนใหญ่ข้างในมักเข้ารหัสด้วย HEVC (H.265) กล่าวง่ายๆ คือ HEIF คือมาตรฐานรูปแบบไฟล์ ส่วน HEIC คือหนึ่งในรูปแบบการใช้งานของ HEIF ที่แพลตฟอร์มแอปเปิลเลือกใช้
ในแง่ของคุณภาพและขนาดไฟล์ ทั้ง HEIF/HEIC เด่นเรื่องการบีบอัดที่ดีกว่า JPEG อย่างเห็นได้ชัด สามารถเก็บรายละเอียด สีสัน ช่วงไดนามิก และข้อมูลอย่าง ความลึก (depth) หรือหลายเฟรมในไฟล์เดียวได้ ทำให้เหมาะสำหรับภาพถ่ายสมัยใหม่และงานที่ต้องการความคมชัดสูงโดยไม่กินพื้นที่เกินจำเป็น ความแตกต่างหลักจึงไม่ได้อยู่ที่คุณภาพของภาพ แต่เป็นเรื่อง ความเข้ากันได้ (compatibility) และระบบนิเวศที่รองรับไฟล์นั้นๆ
ด้านการใช้งานจริง ถ้าคุณใช้ iPhone/iPad หรือ Mac ไฟล์ที่ได้มักจะเป็น .HEIC ซึ่งคือไฟล์ HEIF ที่เข้ารหัสด้วย HEVC และทำงานได้ลื่นไหลในระบบของ Apple ส่วนบนแพลตฟอร์มอื่นๆ อาจรองรับ HEIF ได้บ้างแต่ไม่สม่ำเสมอ จึงมีกรณีที่ต้อง แปลงไฟล์ เป็น JPEG/PNG เพื่อการแชร์หรืออัปโหลด ทั้งนี้ หากต้องการเก็บคุณภาพสูงสุดพร้อมฟีเจอร์ขั้นสูง ให้คงเป็น HEIF/HEIC แต่หากต้องการความเข้ากันได้กว้างสุด ให้เลือกแปลงเป็นรูปแบบมาตรฐานตามที่ปลายทางรองรับ
รูปแบบ HEIF มีข้อดีอะไรเมื่อเทียบกับ JPEG?
รูปแบบ HEIF ดีกว่า JPEG หลายด้าน เพราะให้คุณภาพภาพที่คมชัด สีสวย และเก็บรายละเอียดไฮไลต์–เงาได้ดีกว่าในขนาดไฟล์ที่ เล็กกว่า ทำให้ประหยัดพื้นที่จัดเก็บโดยไม่เสียความคมชัด รองรับ ความลึกสีสูง และ ช่วงไดนามิกกว้าง เหมาะกับจอและกล้องรุ่นใหม่ รองรับฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น โปร่งใส (alpha), ไลฟ์โฟโต้/ภาพต่อเนื่อง, ภาพหลายเฟรม, เมตาดาต้าครบถ้วน และการบีบอัดแบบสมัยใหม่ที่มี ประสิทธิภาพมากกว่า นอกจากนี้ยังเก็บวัตถุและเลเยอร์ได้ (ในบางกรณี) ช่วยให้แก้ไขภาพภายหลังได้ยืดหยุ่นขึ้น อย่างไรก็ตามการใช้งานเว็บหรืออุปกรณ์เก่าอาจต้องแปลงเป็น JPEG เพื่อความเข้ากันได้ แต่หากมองเรื่องคุณภาพต่อขนาดไฟล์และฟีเจอร์เพื่ออนาคต HEIF คือทางเลือกที่คุ้มค่าและล้ำสมัยกว่า
รูปแบบ HEIF มีคุณภาพดีกว่า JPG ไหม?
โดยทั่วไปแล้ว HEIF มักให้คุณภาพดีกว่า JPG เพราะสามารถเก็บรายละเอียด สีสัน และช่วงไดนามิกได้มากกว่าในขนาดไฟล์ที่เล็กลงด้วยการบีบอัดที่มีประสิทธิภาพกว่า อีกทั้งรองรับคุณสมบัติสมัยใหม่อย่าง ความลึกสี 10 บิต, ความโปร่งใส, ไลฟ์โฟโต้/ภาพต่อเนื่อง และเมตาดาต้าที่ครบถ้วน อย่างไรก็ตาม ความเข้ากันได้ (compatibility) ของ JPG ยังแพร่หลายกว่าในอุปกรณ์ เก่า เบราว์เซอร์บางตัว และซอฟต์แวร์บางประเภท ดังนั้นถ้าคุณต้องการ คุณภาพสูงในไฟล์เล็ก และใช้งานบนอุปกรณ์/แอปที่รองรับ (เช่น iOS/macOS รุ่นใหม่) HEIF จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าต้องการ เปิดใช้ได้ทุกที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการรองรับ JPG ยังปลอดภัยกว่า ทั้งนี้สำหรับงานเว็บหรืออัพโหลดทั่วไป อาจเลือก แปลง HEIF เป็น JPG เมื่อจำเป็น และเก็บต้นฉบับเป็น HEIF เพื่อรักษาคุณภาพระยะยาว
ฉันสามารถเปิดไฟล์ HEIF บน Windows 10 หรือ Windows 11 ได้โดยไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเติมไหม?
โดยทั่วไปแล้ว คุณไม่สามารถเปิดไฟล์ HEIF/HEIC บน Windows 10 หรือ Windows 11 ได้ทันทีโดยไม่ติดตั้งอะไรเพิ่มเติม ระบบมักต้องใช้ส่วนเสริมหรือโค้ดเสียง/วิดีโอของ Apple/HEIF เพื่อให้ดูภาพ HEIF ได้ในแอปอย่าง Photos หากยังไม่ได้ติดตั้ง ส่วนใหญ่จะเห็นข้อความให้ดาวน์โหลดส่วนขยาย HEIF/HEVC จาก Microsoft Store ซึ่งบางครั้งอาจมีค่าใช้จ่ายสำหรับตัวถอดรหัส HEVC ดังนั้น หากถามว่า “เปิดได้เลยไหม” คำตอบคือ ส่วนใหญ่เปิดไม่ได้ทันที ต้องมีตัวเสริมก่อน
ถ้าคุณไม่อยากติดตั้งอะไรเพิ่ม มีทางเลือกคือ แปลงไฟล์ HEIF เป็น JPG หรือ PNG ผ่านเว็บแปลงไฟล์ออนไลน์ เพื่อให้เปิดได้ทุกเครื่องอย่างรวดเร็ว อีกทางหนึ่งคือใช้แอปดูรูปของค่ายอื่นที่รองรับ HEIF ในตัว หรือเปิดใช้งานส่วนขยาย HEIF Image Extensions และ HEVC Video Extensions จาก Microsoft Store แล้วคุณจะสามารถเปิด ดู แก้ไข และแชร์รูป HEIF ได้สะดวกบน Windows 10/11 โดยไม่ต้องเปลี่ยนไฟล์ทุกครั้ง เลือกวิธีที่สะดวกกับงานของคุณมากที่สุดเพื่อให้ทำงานได้ต่อเนื่อง
ฉันสามารถอัปโหลดรูปภาพ HEIF ไปยังแพลตฟอร์มอย่าง Squarespace หรือ WordPress ได้ไหม?
โดยทั่วไปแล้วคุณสามารถอัปโหลดรูปภาพ HEIF/HEIC ไปยังแพลตฟอร์มอย่าง Squarespace หรือ WordPress ได้ แต่การรองรับอาจไม่สมบูรณ์ในทุกธีม ปลั๊กอิน หรือเบราว์เซอร์ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาเช่นแสดงผลไม่ครบ ไม่สร้างภาพย่อ หรืออัปโหลดไม่ผ่าน ดังนั้นเพื่อให้การแสดงผลสม่ำเสมอและลดข้อผิดพลาด แนะนำให้ แปลง HEIF เป็น JPEG หรือ PNG ก่อนอัปโหลด โดยเฉพาะหากคุณต้องการความเข้ากันได้สูงกับ SEO, ระบบแคช, CDN และการบีบอัดภาพอัตโนมัติของแพลตฟอร์ม ถ้าจำเป็นต้องใช้งาน HEIF จริงๆ ให้ตรวจสอบว่าโฮสติ้งของคุณเปิดใช้ ImageMagick/Libheif หรือปลั๊กอินที่รองรับไฟล์ HEIC แล้ว และทดสอบบนอุปกรณ์/เบราว์เซอร์หลัก อีกทั้งควรตั้งค่าให้แพลตฟอร์มสร้าง รูปสำรอง (fallback) เป็น JPEG สำหรับผู้ชมที่ไม่รองรับ HEIF เพื่อความเร็ว โหลดไว และประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีที่สุด
ไฟล์ HEIF ใช้พื้นที่น้อยกว่า JPG หรือ PNG ไหม?
โดยทั่วไปแล้วไฟล์ HEIF (หรือ HEIC) ใช้พื้นที่น้อยกว่า JPG และ PNG อย่างชัดเจน เพราะใช้การบีบอัดแบบสมัยใหม่ (เช่น HEVC) ที่เก็บรายละเอียดภาพได้ดีในขนาดไฟล์ที่เล็กลง ในภาพถ่ายจากมือถือ ขนาดไฟล์ HEIF มักจะ เล็กกว่า JPG ประมาณ 30–60% โดยยังคงความคมชัด สี และไดนามิกเรนจ์ได้ใกล้เคียงหรือดีกว่า ในขณะที่ PNG เหมาะกับกราฟิก ไอคอน และภาพที่มีพื้นหลังโปร่งใส แต่ไฟล์มักจะใหญ่กว่า HEIF มากเมื่อเป็นภาพถ่าย เพราะ PNG เป็นการบีบอัดแบบไม่สูญเสียข้อมูล
สรุปคือ หากคุณต้องการ ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ สำหรับภาพถ่ายทั่วไป ให้เลือก HEIF จะคุ้มค่าที่สุดเมื่อเทียบกับ JPG และ PNG อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาเรื่อง ความเข้ากันได้ของอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ เพราะบางแพลตฟอร์มอาจยังรองรับ HEIF ไม่ครบถ้วน หากต้องแชร์หรือใช้งานข้ามอุปกรณ์จำนวนมาก JPG อาจสะดวกกว่า ส่วนงานกราฟิกที่ต้องการ ความคมชัดแบบไม่สูญเสียข้อมูลหรือพื้นหลังโปร่งใส ให้เลือก PNG แม้ไฟล์จะใหญ่กว่า
HEIF มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับรูปแบบ Apple RAW หรือ ProRAW?
HEIF (High Efficiency Image File) เป็นเพียงรูปแบบไฟล์สำหรับเก็บภาพและข้อมูลเสริมอย่างมีประสิทธิภาพ ขนาดเล็ก คุณภาพสูง และรองรับคุณสมบัติสมัยใหม่ เช่น ความลึกสีแบบกว้าง เมตาดาต้า หลายเฟรม ไลฟ์โฟโต้ และแผนที่ความลึก ในขณะที่ Apple RAW/ProRAW เป็นไฟล์ภาพดิบที่เก็บข้อมูลจากเซ็นเซอร์กล้องแบบแทบไม่ผ่านการประมวลผล ทำให้ยืดหยุ่นมากในการปรับแต่งแสง สี ไดนามิกเรนจ์ และรายละเอียดในการปรับแต่งขั้นสูง กล่าวง่ายๆ คือ HEIF = ภาชนะเก็บไฟล์ภาพที่มีประสิทธิภาพ ส่วน RAW/ProRAW = เนื้อข้อมูลภาพดิบคุณภาพสูง ซึ่งเน้นการแก้ไขเชิงลึก
สำหรับ Apple ProRAW บนอุปกรณ์ iPhone นั้น Apple ใช้การรวมข้อดีของไฟล์ดิบเข้ากับการประมวลผลคอมพิวเตชันของ iPhone (เช่น Smart HDR, Deep Fusion) แล้วทำการบันทึกให้อยู่ในคอนเทนเนอร์ที่รองรับคุณสมบัติขั้นสูงได้ ซึ่งอาจเป็น HEIF หรือ JPEG ตามเวิร์กโฟลว์และการตั้งค่า อย่างไรก็ตาม แก่นของ ProRAW คือยังคงเป็นข้อมูล “ดิบ” ที่พร้อมให้ปรับแต่งหนักๆ ในแอปแต่งภาพมืออาชีพ ขณะที่ HEIF ปกติ เหมาะกับการใช้งานทั่วไป แชร์ไว ประหยัดพื้นที่ และแสดงผลทันที สรุปคือ HEIF ทำหน้าที่เป็นรูปแบบจัดเก็บ ส่วน Apple RAW/ProRAW คือแนวทางเก็บข้อมูลภาพแบบดิบเพื่อการแก้ไขเชิงลึก ทั้งสองจึงเกี่ยวข้องกันในเชิง “คอนเทนเนอร์กับข้อมูล” มากกว่าการเป็นรูปแบบเดียวกัน
ทำไมอุปกรณ์แอนดรอยด์บางรุ่นไม่รู้จักไฟล์ HEIF?
สาเหตุหลักที่อุปกรณ์แอนดรอยด์บางรุ่นไม่รู้จักไฟล์ HEIF (หรือ HEIC) มักมาจากข้อจำกัดด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของเครื่องนั้นๆ HEIF ใช้การบีบอัดแบบสมัยใหม่อย่าง HEVC/H.265 ซึ่งต้องการโค้เดกเฉพาะ หากโทรศัพท์ของคุณไม่มีโค้เดกนี้ หรือผู้ผลิตไม่ได้ใส่การสนับสนุนในระบบ กล้องและแกลเลอรีจึงอาจเปิดไฟล์ไม่ได้ นอกจากนี้ รุ่นเก่าหลายรุ่นที่ใช้ Android เวอร์ชันต่ำยังไม่มี การรองรับแบบเนทีฟ ทำให้ไม่สามารถแสดงตัวอย่างหรือแก้ไขไฟล์ได้ตามปกติ
อีกปัจจัยคือ แอปที่ใช้อยู่ บางแอปดูรูปหรือแก้ไขรูปไม่ได้รองรับ HEIF แม้เครื่องจะรองรับก็ตาม ผลคือไฟล์แสดงเป็นไอคอนไม่รู้จัก หรือเปิดแล้วขึ้นข้อผิดพลาด ทั้งนี้ ผู้ผลิตแต่ละแบรนด์อาจปรับแต่งระบบแตกต่างกัน บางรุ่นจึงรองรับ HEIF ในแกลเลอรีของแบรนด์ตนเองเท่านั้น แต่ไม่ทำงานในแอปอื่น อีกทั้งบางประเทศมีข้อจำกัดสิทธิบัตรของโค้เดก ทำให้ผู้ผลิต ปิดการใช้งาน หรือไม่ติดตั้งล่วงหน้า
วิธีแก้ไขทำได้ง่าย เช่น อัปเดต ระบบปฏิบัติการและแอปแกลเลอรี ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด ติดตั้งแอปดูรูปหรือเครื่องมือแก้ไขที่รองรับ HEIF โดยตรง หรือแปลงไฟล์ HEIF เป็น JPEG/PNG เพื่อให้เปิดได้ทุกเครื่อง หากกล้องถ่ายเป็น HEIF แล้วมีปัญหา ให้เข้าไปตั้งค่ากล้องเปลี่ยนเป็น JPEG ชั่วคราว สำหรับงานแชร์หรืออัปโหลด แนะนำแปลงไฟล์ก่อน เพื่อความเข้ากันได้สูงสุดกับอุปกรณ์แอนดรอยด์ทุกรุ่น